วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

มุขใหม่หินกระเด็นโดนตา เรียกค่าเสียหาย

อยากเล่าประสบการณ์ที่เพิ่งเจอมาเมื่อคืนนี้เอง ตอนประมาณ 1 ทุ่ม ขับรถกลับบ้านคนเดียวตามปกติ พอดีน้ำมันใกล้หมด เลยเลี้ยวเข้าปั้มน้ำมัน จอดยังไม่ทันเติมเลย ก็มีชายคนหนึ่งเดินมาพูดกับเด็กของปั้ม เด็กมาบอกเราว่า ' พี่ครับ ตะกี้พี่เลี้ยวเข้ามา หินกระเด็นโดนตาของพี่ผู้ชายคนนั้นครับ '
เราตกใจเปิดกระจกรถลงสุด แล้วมองไปที่ชายคนนั้น ดูที่ลูกตา มีเลือดไหลออกมาด้วย ชายคนนั้นพูดว่า ' ผมนั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงทางเข้า รถคุณขับเข้าปั้ม ไม่รู้ว่า หินหรือแก้ว กระเด็นมาโดนตาผมครับ ' เรารีบบอกเค้าว่า ' โดนตาหรือค่ะ ขอโทษค่ะ ไม่ต้องห่วง เรามีประกัน เดี๋ยวเราเรียกประกันเรามา ' ในใจคิดว่าจะเอาเงินให้เค้าไปหาหมอก่อนดีมั้ย แต่คิดอีกทีแจ้งประกันก่อนดีกว่า เรารีบไปโทรแจ้งประกัน ขณะที่กำลังคุยกันอยู่ ชายคนนั้นก็เดินมาพร้อมทิชชูที่ซับตาอยู่ แล้วบอกเราว่า ' ผมจะไปหาหมอก่อนนะครับ ' เรารีบถามพี่ประกัน (ในสาย) ว่า ' คนเจ็บจะไปหาหมอให้เค้าไปก่อนเลยได้ใช่มั้ย ' พี่ประกันก็บอกว่า ' ได้ครับ แต่พี่ไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งนั้นนะ รอเจ้าหน้าที่ผมก่อน ' จากนั้นเราก็นั่งรอ และเข้าไปในร้านมินิมาร์ท กินน้ำ และ ยืนรอ ยังคุยให้คนขายฟังเลย คนขายบอกว่า ตะกี้ชายคนนั้นก็มาขอทิชชูไปซับเลือดเลย เรารู้สึกไม่ค่อยดี ไม่รู้เค้าจะเป็นอะไรหรือเปล่า พี่ประกันโทรกลับมาบอกเราว่า เจ้าหน้าที่ Survey เค้าออกมาแล้ว รอแป๊ปหนึง เราบอกว่าเนี่ยคนเจ็บไปหาหมอยังไม่มาเลย พี่ประกันบอกว่า ' คงไม่มาแล้วล่ะครับพี่ เราพอจะมีข้อมูลอยู่ ทำไมเค้าต้องมานั่งสูบบุหรี่บริเวณนั้น แล้ว ทำไมรถผ่านไปมาตั้งมาก ทำไมต้องพอดีมาเป็นหินกระเด็นจากรถพี่ด้วย Case แบบนี้เราเจอมามากครับ เค้าทำงานกันเป็นแก๊งค์ แต่พี่ไม่ต้องห่วงถ้าเป็นเรื่องจริงทางบริษัทฯ ยินดีดูแลรักษาให้เต็มที่ รอเจ้าหน้าที่ผมก็นะครับ ' เราก็รอต่ออีกแป๊ปเดียว พี่ประกันอีกคนก็ขี่รถมาจอด สอบถามเรื่องราวกันเสร็จ ยืนรอ นั่งรอ จนเป็นชั่วโมงชายคนนั้นก็ยังไม่มา พี่ประกันก็เลยบอกให้เราไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานไว้ (ไม่งั้นวันหลังอาจมีหมายมาตามว่าชนคนแล้วหนี) เราให้เบอร์ติดต่อไว้ บอกท่านสารวัตร (ใจดี) ว่าเรายินดีรับผิดชอบทุกอย่าง แต่คนเจ็บไม่กลับมาซะที
กลับไปที่ปั๊มน้ำมันอีก เผื่อว่าคนเจ็บจะกลับมา ถามเด็กของปั๊ม ก็ยังไม่มีใครกลับมา รวมๆ ทั้งหมด 2 ชั่วโมงแล้ว เลยฝากบอกเด็กไว้ว่า ถ้าชายคนนั้น (ซึ่งเด็กเห็นกันหมดทุกคน) กลับมาให้ติดต่อสถานีตำรวจได้เลย เพราะได้แจ้งความและให้เบอร์ติดต่อกลับไว้ที่ตำรวจแล้ว เรายังฝากเรื่องไว้ที่พี่ร้านมินิมาร์ทอีกด้วย
พี่ประกันบอกว่า ถ้ามองในแง่ร้าย พวกนี้เค้าทำงานกันเป็นทีม และ เลือกเฉพาะรถที่ผู้หญิงขับคนเดียว ซึ่งเมื่อตกใจส่วนใหญ่ก็จะรีบให้เงินคนเจ็บไปหาหมอก่อน หรือ หากใจดีมากก็จะเอาคนเจ็บขึ้นรถไปหาหมอเองเลย ทีนี้ก็จะเข้าแผนพวกมัน สามารถจี้ตัวไปปล้นหรือทำอะไรได้มากมาย
เพราะฉะนั้น เพื่อความปลอดภัยควรจะระวังตัว คิดในแง่ร้ายไว้ก่อน แล้วรอเจ้าหน้าที่มาจะดีที่สุด
เราเลยอยากแชร์เรื่องราวที่เจอเองเรื่องนี้ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่รักของเราทุกคนรู้จ้า จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพ ช่วยส่งต่อๆ กัน เพื่อจะได้ระวังตัวนะค่ะ

วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แบงการันตีปลอม กำลังอาละวาด

สำหรับท่านที่ทำธุรกิจหรือกิจการค้าขาย โดยเฉพาะวัสดุก่อสร้าง วัสดุตกแต่ง ช่วงนี้ขอได้โปรดระมัดระวังความเสี่ยงในการชำระค่าสินค้า ร้านค้าหรือกิจการที่มีลูกค้าที่ซื้อสินค้าจำนวนมาก มูลค่าสูง หรือซื้อติดต่อกันบ่อย แล้วให้ลูกค้าวางแบงการันตี(หนังสือรับประกันชำระหนี้แทนหากลูกหนี้ไม่ชำระสินค้า)ขอย้ำเตือนว่า ช่วงนี้มีกลุ่มผู้ทุจริตทำแบงการันตีปลอมมาวางซื้อสินค้า เมื่อเกิดปัญหาการไม่ชำระหนี้ ร้านค้าต่างๆที่รับวางแบงการันตีก็ไม่สามารถไปเรียกเก็บจากธนาคารได้ วันนี้ผมมีข้อระมัดระวังเกี่ยวกับการรับวางแบงการันตีปลอมมาฝากครับ
1. เมื่อลูกค้านำแบงการันตีมาวาง อันดับแรกให้ตรวจสอบก่อนว่า กระดาษที่เป็นหนังสือรับรอง มีตราธนาคารหรือไม่ และโลโก้ต้องชัดเจน ไม่ใช่เป็นการพิมพ์มาจากเครื่องปริ้นเตอร์ บางธนาคารจะอัดโลโก้เป็นตัวนูนด้วย ถ้าเป็นกระดาษ A4 ธรรมดาไม่มีลายน้ำ ให้สงสัยไว้ก่อนว่าน่าจะปลอม
2. ก่อนจะมีการส่งสินค้าให้นำแบงการันตีดังกล่าวไปตรวจสอบกับสาขาธนาคารที่ออกแบงการันตี โดยตรวจสอบกับผู้จัดการสาขาเท่านั้น และถ้าจะให้ดีควรจะนำไปตรวจสอบกับผู้จัดการสาขาอื่นที่ไม่ใช่สาขาผู้ออกแบงการันตี
3. นอกจากลูกค้าจะวางแบงการันตีแล้ว ก่อนส่งสินค้าให้ลูกค้าชำระค่าสินค้าเป็นจ่ายเช็คทุกครั้ง เพราะถ้าลูกค้าสามารถขอแบงการันตีจากธนาคารได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีบัญชีกระแสรายวัน ถ้าลูกค้าบ่ายเบี่ยงบอกไม่มีเช็ค ถือเป็นความเสี่ยงครับ
4. อย่าลืมขอเอกสารตัวจริงเช่นบัตรประชาชน ทะเบียนร้านค้า หนังสือรับรองบริษัท ภพ.30 เพื่อตรวจสอบกับแบงการันตีว่าชื่อตรงกับที่จดทะเบียนธุรกิจหรือไม่ จะได้ไม่มีปัญหาในเคลม BG เมื่อลูกค้าไม่ชำระหนี้
5. อย่าลืมขอเบอร์โทรติดต่อกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อผู้ออกหนังสือค้ำประกัน เผื่อมีปัญหาจะได้ติดต่อได้ทันท่วงที

ขั้นตอนหลักๆก็มีเพียงเท่านี้ครับ หากต้องการระเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามที่ธนาคารสาขาใกล้บ้านท่านได้ครับ

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ชำระค่าใช้จ่ายที่เคาท์เตอร์รับเงิน

วันนี้มีข้อเตือนภัยมาฝากครับ เป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการรับชำระเงินที่เคาท์เตอร์ หรือ Bill Patment ซึ่งโดยมากเราจะมั่นใจกับการไปใช้บริการที่เคาท์เตอร์เซอร์วิสทั่วไป หรือปัจจุบันเคาท์เตอร์ธนาคารต่างๆก็สามารถรับชำระค่าใช้จ่ายได้ แต่โดยมากก็ยังไม่ค่อยมีใครรู้ว่าหลังจากไปชำระแล้วต้องตรวจสอบอะไรบ้าง วันนี้ก็เลยมาบอกเล่ากันครับ ว่าควรปฏิบัติการตรวจสอบอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง
1. ให้ตรวจสอบใบแจ้งหนี้ว่า ชื่อนามสกุล และเลขที่สัญญา ตรงกับที่เราทำสัญญาไว้หรือไม่ (ควรตรวจสอบกับใบเสร็จที่ไปชำระครั้งก่อน เพื่อความแน่ใจ)
2. ใบแจ้งชำระจะมี บาร์โค้ด เมื่อไปถึงเคาท์เตอร์สังเกตดูด้วยว่า พนักงานที่รับชำระใช้ตัวยิงบาร์โค้ดหรือไม่ หากไม่ยิงบาร์โค้ดแล้วใช้วิธีคีย์ตัวเลข ให้สอบถามถึงความผิดปกติด้วย(โดยสอบถามว่า ชื่อนามสกุลตรงในข้อมูลระบบหรือไม่)
3. ก่อนยื่นเงินสดให้ตรวจนับทุกครั้งก่อนส่งให้พนักงานนับ และดูพนักงานนับต่อหน้าเราทุกครั้ง (ไม่ต้องอายว่าเป็นการจับผิดพนักงานนะครับ เพราะเป็นระเบียบที่พนักงานเคาท์เตอร์ทุกคนต้องปฏิบัติอยู่แร้ว)
4. เมื่อพนักงานทำรายการแล้ว ต้องนำใบ Pay IN เข้าเครื่องพิมพ์ เพื่อพิมพ์รายการระบบใส่ใบแจ้งหนี้(จะปรากฎข้อความที่หัวใบแจ้งหนี้ ว่ารับชำระเงินจากใคร จำนวนเงินเท่าไหร่ ) หากพนักงานปั๊มตรายางแล้วเซ็นต์ชื่ออย่างเดียว ต้องปฏิเสธการชำระ โดยให้พนักงานคีย์รายการแล้วเข้าเครื่องพิมพ์ให้ถูกต้อง ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะหากภายหลังมีการแจ้งว่า เรายังไม่ได้ชำระเงิน นั่นหมายถึงพนักงานผู้รับชำระเงินอาจลืมคีย์ข้อมูลให้เรา ถึงจะเซ็นต์รับเงินไปแล้วก็ตาม ทำให้เราโดนค่าปรับภายหลัง
5. หลังจากรับใบ Pay In จากพนักงานแล้ว ตรวจดูว่า มีการตีข้อความด้วย Printer ชื่อผู้ชำระ ยอดเงิน เรียบร้อยหรือไม่ ซึ่งปกติจะมีค่าธรรมเนียมอีกประมาณ 10-15 บาท แล้วแต่รายการ และที่สำคัญ ต้องมีรอยปั๊มตรายางมีลายเซ็นต์พนักงาน ถ้าเป็นไปได้ให้สอบถามชื่อพนักงานผู้รับชำระว่าตรงกับป้ายแสดงชื่อพนักงานที่เคาท์เตอร์หรือไม่ แล้วจดไว้เพื่อตรวจสอบ

ข้อปฏิบัติง่ายๆ คงไม่ยากเกินไปนะครับ หลังจากชำระไปประมาณ 1 สัปดาห์ หากยังไม่ได้รับใบเสร็จจากบริษัทที่เจ้าหนี้ ให้รีบไปติดต่อที่เคาท์เตอร์ที่เราไปชำระเป็นการด่วน!!!

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

sim ของมือถือโดนลักลอบใช้ได้แล้ว !!

โปรดระวัง ถ้าคุณได้รับสัญญาณโทรศัพท์บนมือถือของคุณว่า
ช่างเทคนิค Cellnet หรือ Vodafone บอกคุณว่า
พวกเขากำลังทำการตรวจเช็คโทรศัพท์ของคุณ
และบอกให้คุณต้องกด # 90 หรือ 90 #
ตอนนี้มีบริษัทหลอกลวงฉ้อฉล วางอุบายนี้ขึ้นมา
ถ้าคุณได้รับสัญญาณโทรศัพท์ดังกล่าว คุณต้องวางสายโทรศัพท์ทันที
ถ้าคุณกด # 90 หรือ 90 # ล่ะก็ พวกเขาจะสามารถเข้าไปใน sim card ของคุณได้
และสามารถทำการใช้โทร.ออกจาก sim card นั้น
โดยค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น จะเป็นของคุณ
กรุณาบอกคนอื่นๆด้วย
-- ห้ามเปิด เวป นี้ เด็ดขาด --
เว็บ siamstreet.com และ digithais.com ปล่อย ไวรัส อย่าเปิด แถมข้อมูลยังโดนแฮ็กด้วยบอกต่อด้วย โหด มาก
เตือนทุก คน ฟอร์เวิร์ดต่อด้วย นะ !
Virus ชื่อ kali มันจะมากับเมล์ชื่อ Let watchTV .
อย่า เปิด เพราะ harddisk คุณจะเกลี้ยงทุกอย่างโดย ทันที
ส่งต่อด้วยยังไม่มีวิธีแก้ไข ไม่ควรเปิด เว็บ Siamstreet.com และ Digithais.com

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เจ็ดสิ่งที่ควรหยุดทำทันทีใน Facebook

บทความนี้เรียบเรียงจาก 7 Things to Stop Doing Now on Facebook
by Consumer Reports Magazine Wednesday, May 12, 2010

1. ใช้รหัสผ่านแบบง่าย ๆ
หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อธรรมดา หรือคำทั่วไปที่สามารถหาพบได้ในพจนานุกรม
หรือแม้แต่ตัวเลขที่ลงท้ายรหัสผ่านดังกล่าว ควรใช้การผสมระหว่าง
ด้านหน้า ด้านหลังตัวอักษร ด้วยตัวเลข หรือสัญลักษณ์
รหัสผ่านควรมีแปดตัวอักษรอย่างน้อย เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งคือ
การเพิ่มตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ระหว่างกลางคำผ่าน
เช่นตัวอย่างคำผ่าน houses เป็น hO27usEs!
มีบทความส่วนหนึ่งที่ผมได้เขียนไว้เรื่อง รหัสผ่านคาดเดายาก
http://www.pantip.com/tech/techblog/article.php?articleID=BA2882742

2. ระบุวันเดือนปีเกิดในข้อมูลสาธารณะ
โจรภัยทางข้อมูลแบบเบื้องต้น
ผู้ไม่หวังดีมักจะใช้ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวคุณ
เพราะมันจะมีประโยชน์อย่างมากในการเข้าถึงข้อมูลธนาคารหรือบัตรเครดิต
ถ้าคุณได้ระบุวันเกิด ให้กลับไปที่ข้อมูลส่วนตัว เข้าไปแก้ไขข้อมูลส่วนตัว
ระบุข้อมูลพื้นฐานคือ ไม่แสดงวันเกิดในข้อมูลส่วนตัว หรือ
แสดงเฉพาะวันและเดือนเกิดในหน้าข้อมูลส่วนตัว

(การติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบัตรเครดิต มักจะต้องตอบข้อมูลเรื่องนี้ด้วย)

3. ตรวจสอบการใช้งานของข้อมูลส่วนตัว
ข้อมูลทั้งหมดใน Facebook คุณควรกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงของเพื่อน
หรือเพื่อนของเพี่อน หรือตัวคุณเอง
เช่น การเข้าชมรูปภาพ วันเกิด ศาสนา และข้อมูลของครอบครัว
หรือสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณเอง เช่น ข้อมูลในการติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ สถานที่อยู่
ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะบุคคลหรือกลุ่มที่สามารถจะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว
หรือจัดการบล็อก(ห้าม)บุคคลบางคน
หรือไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

4. ระบุชื่อบุตรหลาน โดยมีข้อความที่อธิบายหรือตำบรรยายใต้ภาพประกอบ
ใม่ควรระบุชื่อบุตรหลานหรือป้ายกำกับ(tags)
หรือ มีคำอธิบาย/บรรยายรายละเอียดใต้ภาพ
และถ้าได้มีคนอื่นหรือเพื่อนคุณทำเช่นว่านั้น
ก็ขอให้ช่วยแก้ไขหรือลบออกพร้อมกับป้ายกำกับด้วย

แต่ถ้าชื่อบุตรหลานของคุณไม่ได้อยู่ใน Facebook
แต่ได้มีบางคนได้ระบุข้อมูลดังกล่าวไว้ใน
ป้ายกำกับ(tags) หรือ หรือมีคำอธิบายหรือบรรยายรายละเอียดใต้ภาพ
ก็ขอให้เจ้าของข้อมูลดังกล่าวแก้ไข/ลบออกด้วย

(เป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีใช้ข้อมูลดังกล่าว
ในการก่ออาชญากรรมบางเรื่องได้ง่าย
เพราะรู้ว่าเป็นลูกหลานของใครมีฐานะการเงินเป็นเช่นไร)

5. การบอกว่า กำลังออกจากบ้าน
เป็นนัยที่สื่อความหมายว่า ไม่มีใครอยู่ในบ้าน
หรือคล้ายเป็นการปิดป้ายว่า “ไม่อยู่” ไว้ที่หน้าบ้านเช่นกัน
ให้รอจนคุณกลับถึงบ้านแล้วค่อยบอกถึงการผจญภัยหรือความสนุกสนาน
ในการเดินทางหรือการใช้วันหยุดพักผ่อน โดยอาจจะไม่ต้องระบุ
วันเดือนปีที่เดินทางก็ได้ หรือระบุวันเดือนปีที่เดินทางให้คลุมเครือไม่ชัดเจน

6. การปล่อยให้ Facebook ค้นหา พบคุณ
เพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้าถึงหน้าข้อมูลของคุณ
ให้ไปที่การค้นหาของ Facebook ข้อมูลส่วนตัว
และเลือกเฉพาะเพื่อนเท่านั้นของ Facebook ที่จะค้นพบข้อมูลดังกล่าว
และให้มั่นใจว่ากล่องข้อมูลสาธารณะไม่ได้ระบุให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้

7. อย่าให้เด็กใช้ Facebook โดยไม่ตรวจสอบควบคุม
แม้ว่า Facebook จะไม่อนุญาตให้เด็ก
อายุต่ำกว่าสิบสามขวบหรือยังไม่ถึงเกณฑ์ใช้งาน
แต่หลายคนก็ทำการปลอมอายุเข้าไปใช้ได้
ถ้าคุณมีเด็กหรือวัยรุ่นในความปกครองใช้ Facebook
วิธีการที่ดีที่สุดในการตรวจสอบและควบคุม คือ
การเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มเพี่อนของเขา
หรือให้ใช้ email ของคุณแทนในการติดต่อระหว่างบัญชีของเขา
เพื่อที่คุณจะได้รับข้อความหรือตรวจสอบการใช้งานของเขา


ยกตัวอย่างเช่น มีเด็กคนหนึ่งมักจะบอกว่า
"แม่กำลังจะกลับบ้านแล้ว ฉันต้องไปล้างจาน"
มักจะบอกทุก ๆ วัน ในเวลาเดิมเสมอ
มันเป็นการบอกเวลาที่ชัดเจนมาก
เกี่ยวกับการเดินทางไปกลับของพ่อแม่

(บอกช่วงเวลาที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ที่บ้าน
คนร้ายอาจกะระยะเวลาก่อกรรมทำชั่วได้ง่ายขึ้น)


“เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไร กลับกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างง่ายดาย”


เป็นคำกล่าวของ Charles Pavelites, ผู้ชำนาญการพิเศษของหน่วยงาน
ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากอาชญากรรมทางอินเตอร์เนต

วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เตือนภัยสาวๆ ระวัง!!มารสังคมที่มาอาศัย ห่มผ้าเหลือง

รายการผู้หญิงถึงผู้หญิง
มีผู้ชมทางบ้านซึ่งเป็นเหยื่อ โทร.มาเล่าให้ทางรายการฟังดังนี้

เธอ กำลังเลือกหาซื้อหนังสืออยู่ในห้างแห่งหนึ่ง มีคนหัวโล้นนุ่งผ้าเหลืองมาพูดจาสุภาพว่า
" โยม อาตมาเพิ่งมาห้างนี้ครั้งแรก ไม่รู้ว่าจะไปซื้อ...ได้ที่ไหน " ( ฟังไม่ทันว่า ....คืออะไร ขออภัยด้วย)
หญิงสาวได้ยินดังนั้น จึงบอกทางว่าเดินไปข้างหน้าอยู่ซ้ายมือ แล้วอ่านหนังสือต่อ

สักพักคนหัวโล้นนั้นเดินกลับมา บอกว่า " ขอโทษเถอะโยม อาตมามีเงินไม่พอ ขาดอีก 57 บาท
โยมช่วยไปจ่ายให้ก่อนได้ไหม เดี๋ยวจะเอาเงินคืนให้ จากลูกศิษย์ที่รออยู่ในรถหน้าห้าง "

หญิง สาวจะปฏิเสธ ก็จะกลายเป็นคนใจดำ จึงไปช่วยจ่ายเงินให้ แล้วเดินไปหน้าห้างด้วยกัน
พอเจอลูกศิษย์นั่งรอในรถ คนหัวโล้นก็พูดว่า เอาเงินคืนโยมไป ลูกศิษย์ก็แกล้งทำเป็นตกใจ
หยิบกระเป็าที่ไม่มีตังค์เปิดออกมา เหมือนจงใจให้หญิงสาวดูว่า
" อ้าว ไม่ได้พกตังค์มา ....ถ้างั้นไปกดที่ ATM ที่อยู่หัวมุมถนนโน้นละกัน " ( จะหลอกให้หญิงสาวขึ้นรถไปด้วย)

หญิงสาวบอกว่า ATM ที่ห้างนี้ก็มี ลูกศิษย์อ้างว่า ถ้ากด ATM ในห้าง จะต้องขับรถอ้อมห้างอีก
เสียเวลาหญิงสาวบอกว่า ถ้างั้นไม่เป็นไร ( เธอคิดว่า ทำบุญ 57 บาท) คนหัวโล้นพูดว่า
ไม่ได้หรอกโยม อาตมายืมก็ส่วนยืม ถ้าไม่คืน จะเป็นหนี้ค้างกันไปถึงชาติหน้า (อ้างไปเรื่อยให้เหยื่อตายใจ)

พอขึ้นรถไป ก็ไปนิดเดียว ไม่ไกลจากห้างจริงๆ แต่ไม่ใช่ตู้ ATM มันเป็น ม่านรูด !!!!

หญิง สาวเล่าให้ทีมงานรายการฟังว่า จากคนที่ท่าทางสุภาพ ห่มผ้าเหลืองที่เธอคิดว่าเป็นพระนั้น
พอเกือบถึงโรงแรมม่านรูด ก็ชกท้องเธอ จากนั้นเธอโดนข่มขืนและรูดทรัพย์

สุดท้ายถูกนำมาปล่อยตัวใกล้ๆ ม่านรูด โดยที่เธอไม่มีหลักฐานอะไรเพื่อเอาเรื่องพวกมันได้เลย
อยาก ให้หญิงสาวทุกคนอ่านไว้เป็นอุทาหรณ์ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใด ห้ามขึ้นรถผู้ชายที่ไม่รู้จักเด็ดขาด
ไม่ต้องไปเกรงใจว่ามันเป็นใคร ยิ่งอยู่ในห้าง เราสามารถหาผู้ชายคนอื่นช่วยแทนได้

วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวจาก อาจารย์ ร.ร.นานาชาติ

เคยได้ยินแต่ข่าว นศ.สาว ไปจอดรถที่ลาดพร้าว และ รังสิต ถูกโปะยาสลบแล้วพาเข้าม่านรูด



ตอนนี้มันเล่นทั้งชายหญิงครอบครัวเลยนะ
เคยประสบเหตุนี้แล้วกับตัวเอง ที่ถนนมเหศักดิ์ ซึ่งเชื่อม ถนนสาธรกับถนนสีลมเป็นเวลากลางวัน
ระหว่างที่รถผมหยุดรอไฟเขียว มีชาย 2 คนเดินมาข้างหลัง ทั้งคู่กระตุกประตูหลัง คนละข้าง โชคดีที่
ประตูล๊อก
1 ใน 2 คนนั้นพยายามดึงแรงขึ้นอีก แล้วทั้งคู่ก็เดินเร็วผ่านรถผม
แล้วปนไปในฝูงชน เดี๋ยวนี้ เหตุร้ายเกิดได้ตลอด ไม่ว่ามืดหรือสว่าง
เราคงต้องระวังอย่าเผลอเชียวละ

เหตุการณ์ที่ 1
ดิฉันจะมีนิสัยเมื่อขึ้นรถแล้วต้องกดเซ็นทรัลล๊อคทั้งก่อนสตาร์ทเครื่อง และก่อนดับเครื่อง มีรถเก๋งคัน
หนึ่งสีเงิน มีคนสองคนเดินลงมาจากรถแล้วก็เดินมาอย่างสุภาพ ขณะที่กำลังจัดของอยู่ เพลินๆก็
ได้ยิน เสียงตึ๊กจากข้างหลัง ก็ตกใจรู้สึกตัวว่ามีคนพยายามเปิดประตูหลังของรถ แต่เพราะรถ
ล๊อคพวกมันก็เดินกลับไปขึ้นรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดว่าเหลือเชื่อจริงๆ กลางวันแสกๆแท้ๆ ถ้า
หากบังเอิญรถไม่ได้ล๊อค ไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
อยากจะให้ทุกคนมีนิสัย ขึ้นรถต้องล๊อครถพวกผู้ร้ายมักจะลงมือจากเบาะหลัง เพราะจะควบคุม
สถานการณ์ได้ง่าย

เหตุการณ์ที่ 2
หลังจาก จ่ายเงินค่าจอดรถเลี้ยวออกจากโรงพยาบาล ก็จอดติดไฟแดง
ขณะนั้น ( ยังไม่ ถึง 3 นาที ระบบล๊อคอัตโนมัติคงยังไม่ทำ งาน )
ชายหนุ่ม สองคนก็เข้ามานั่งที่เบาะหลังของรถ โชคดีที่พ่อแม่ของผมไหวตัวเร็วมาก รีบถอดเข็มขัด
นิรภัย ดับเครื่อง ดึงกุญแจออกแล้วออกมายืนนอกรถโดยเร็ว คนทั้งสองคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ในรถ
หน้าตาเฉย จนกระทั่งคุณแม่ของผมตะโกนใส่พวกเขาว่า พวกเรายังมีเพื่อนฝูงอยู่ในโรงพยาบาลอีก
เยอะ
จะให้ เรียกพวกเขาลงมาคุยกับพวกแกไหม ?
พวกเขาจึงออกมาจากรถแล้วบอกว่าขอโทษขึ้นผิดคัน(นี่มันปล้นกันชัดๆ )
แล้วรถคันข้างหลัง ( มีคนอยู่ในรถสองคน ) ก็ขับมารับพวกเขาจากไป
น่ากลัวที่สุด


เหตุการณ์ที่ 3
ตอนจอดติดไฟแดง รถของผมอยู่ห่างจากทางแยกประมาณคันที่สามหรือสี่
สักครู่ หนึ่ง จู่ ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่ท้ายรถผม
บนรถมีชายหนุ่มอายุ ประมาณ 20 กว่า สองคน
แล้วที่น่าสงสัยก็คือ พวกเขาพยายามมองเข้ามาในรถของผม
ผมจึงจ้องพวกเขาอยู่ครู่หนึ่ง พอไฟเขียวก็ออกรถพร้อมมัน
ผมบังเอิญได้ยินหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า "รถมันล๊อคหมด" แล้วก็ขับเลยไป


ขอให้ช่วยกัน Forward มากๆ ทั้งชายทั้งหญิงนะครับ
ตำรวจเคยบอกว่ามักจะพบผู้หญิงถูกลอกคราบ ข่มขืน และถ่ายรูปแล็คเมลล์ ตบทรัพย์มากราย ส่วนมาก
ถูกยาสลบ
ส่งแค่คนสองคนก็ได้บุญมากแล้วครับ